;
โรคปอดบวม เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่เกิดการอักเสบของเนื้อปอดส่วนปลายสุด หรือการอักเสบของถุงลมเล็กๆ ทำให้การแลกเปลี่ยนอากาศภายในถุงลมไม่ดี ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตได้มาก โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กที่เกิดมาน้ำหนักตัวน้อย เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เด็กขาดสารอาหาร หรือเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
สาเหตุ
- เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย
- เกิดจากการสำลักอาหารและนมอย่างรุนแรง
การติดต่อ
- หายใจเอาเชื้อโรคที่กระจายอยู่ในอากาศเข้าไป เชื้อเหล่านี้อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยที่ไอ จาม ออกมาหรือติดต่อโดยการใช้ภาชนะและสิ่งของร่วมกับผู้ป่วย
- ไอ จามรดกัน
- คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นปอดบวม
- สำลักเอาเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่โดยปกติในจมูกและคอเข้าไป ซึ่งมักพบในเด็กที่มีภูมิต้านทานบกพร่อง
อาการและอาการแสดง
- มีไข้
- ไอมาก ระยะแรกมีลักษณะไอแห้งๆ แต่ระยะต่อมาเสมหะเหนียวข้น และอาจมีเลือดปนเนื่องจากมีการคั่งของน้ำในปอด
- หายใจเร็วหรือหายใจหอบ ในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 เดือน อาจไม่มีอาการไอ แต่มีไข้ หายใจเร็ว เหนื่อยหอบ ถ้ามีอาการรุนแรงเด็กจะไม่ดูดนมหรือน้ำ
- หายใจชายโครงบุ๋มขณะหายใจเข้า หายใจมีเสียงดังผิดปกติ
การรักษา ในเด็กที่ป่วยเป็นปอดบวม
ในระยะแรก หรือไม่รุนแรง : มีอาการไข้สูง ไอ หายใจเร็ว ควรพาไปรับการรักษาจากแพทย์ อาจให้ยาปฏิชีวนะติดต่อกัน 5 - 7 วัน เพื่อรักษาการอักเสบของปอด
ในภาวะป่วยหนัก หรือรุนแรง : จะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ คือ ไม่ยอมกินนมหรือน้ำ ซึมมาก ปลุกตื่นยาก หายใจมีเสียงดัง หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ควรได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
การป้องกัน
ในเด็กเล็กๆ จะต้องหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากผู้ใหญ่ที่เป็นโรคไอ โดยไม่ให้อยู่ใกล้ชิดหรือคลุกคลีกับผู้ป่วย นอกจากนี้ สิ่งแวดล้อมที่ทำให้เป็นหวัดและปอดบวมได้ง่าย คือการอยู่ในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่ บ้านที่ใช้ฟืนหุงต้มอาหารและมีควันในบ้าน ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 4 - 6 เดือน เด็กต้องได้รับการฉีดวัคซีนคุ้มกันโรคตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
ทำอย่างไรจึงจะปกป้องลูกน้อยจากโรคปอดอักเสบได้
- การเลี้ยงดูเด็กให้มีสุขภาพแข็งแรง และสร้างสุขอนามัยที่ดีด้วยการล้างมือเป็นประจำ จะช่วยลดการติดเชื้อที่สัมผัสมากับมือได้ หรือใส่หน้ากากอนามัย
- ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในที่ชุมชนและสถานที่แออัดเป็นเวลานานๆ
- หากบุตรหลานของท่านมีอาการไข้ ไอ หอบ ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนสำหรับป้องกันโรคปอดบวม (Hib vaccine, Pneumococcal vaccine รวมทั้งวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ Influenza vaccine)